วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

17 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Louis Vuitton


1. เริ่มต้น

Louis Vuitton Malletier เริ่มประกอบอาชีพเป็นผู้ผลิตหีบใส่ของขนาดใหญ่เมื่ออายุ 16 ปี

2. ชะตาฟ้าลิขิต

บ้านของ Louis Vuitton ก่อตั้งขึ้นในปี 1854

3. ปุ่มล็อค

George Vuitton ลูกชายของหลุยส์วิตตองได้คิดค้นการล็อคกระเป๋ารูปแบบใหม่แบบ Tumbler Lock ขึ้นมา

4. มายากลเพื่อสาธิตการหลบหนี

พ่อลูกคู่นี้ต่างมั่นใจรูปแบบการล็อคกระเป๋าของตัวเอง พวกเขาจึงขอ Harry Houdini นักมายากลชื่อดังให้สาธิตการหลบหนีต่อหน้าสาธารณชน น่าเสียใจที่ Houdini ไม่ตกลง

5. ต้นแบบแท้จริง

สัญลักษณ์ Monogram canvas เปิดตัวครั้งแรกในปี 1896 เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้กับผลิตภัณฑ์ปลอม

6. Tote-tastic

ในปี 1914 แบรนด์ได้เปิดร้านกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นที่ช็องเซลีเซ่ กรุงปารีส

7. งานฝีมือที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

สินค้าทุกชิ้นยังคงทำด้วยมือในฝรั่งเศส

8. ทั้งหมดเพื่อการแสดง

Monogram คือแรงบันดาลใจของศิลปิน Salvador Dali ในการสร้าง “Daligram”

9. ศิลปะสมัยใหม่

เมื่อเร็วๆนี้ทางแบรนด์ได้ทำงานร่วมกับศิลปิน เช่น Takashi Murakami และ Stephen Sprouse

10. Carrie’s Choice

ซีรีส์ Sex and the City ช่วยกระตุ้นกระแสให้กับนักออกแบบและบรรดาของปลอม

11. พลังดารา

บรรดาคนดังรวมทั้ง Angelina Jolie, Madonna และ David Bowie ได้ถ่ายแบบให้กับแบรนด์นี้ แต่แคมเปญที่ประหลาดที่สุดเห็นจะเป็นของ Mikhail Gorbachev ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต

12. สิ่งที่อยู่ในชื่อคืออะไร?

LVMH เป็นกลุ่มร้านค้าปลีก 70 ร้านประกอบไปด้วย Christian Dior, Donna Karan และ Givenchy เป็นต้น

13. ขอขอบคุณ

ตัว M และ H แทนคำว่า Moet และ Hennessy ซึ่งเป็นแบรนด์แอลกอฮอล์ยอดนิยม

14. ผู้เล่นอันทรงพลัง

นิตยสารฟอร์บส์กล่าวว่า Louis Vuitton ถือเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่ามากเป็นอันดับที่ 14 ของโลก

15. Louis Louis Louis

ในปี 2013 LV เป็นแบรนด์ที่ได้รับการกล่าวถึง 19 ครั้งในเพลงของ Kanye West

16. เบื้องหลังการออกแบบ

Marc Jacobs เคยเป็นผู้กำกับศิลป์ของแบรนด์นี้นานถึง 6 ปีตั้งแต่ปี 1997-2013

17. การเริ่มต้นใหม่

หัวหน้านักออกแบบ Louis Vuitton ในปัจจุบันคือ Nicholas Ghesquiere ผู้ซึ่งได้รับตำแหน่งผู้นำในปี 2013


                                Image result for หลุยส์ วิตตอง   

ภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น

 ภาวะซึมเศร้า คือ ภาวะที่ไม่มีอารมณ์, สูญเสียความสนใจในการทำกิจวัตรประจำวัน, รู้สึกไม่มีคุณค่า, ขาดพลังงาน และขาดสมาธิ ซึ่งอาการเหล่านี้จะต้องเป็นติดต่อกันอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป
      เด็กทุกคนอาจรู้สึกเศร้าและผิดหวังได้ แต่อารมณ์เหล่านี้สามารถหายไปได้ ภาวะซึมเศร้าจะทำให้เด็กรู้สึกเศร้าเป็นเวลายาวนานขึ้น ภาวะซึมเศร้าสามารถหายได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือนถึงปี รวมทั้งยังมีโอกาสกลับเป็นซ้ำในอนาคตได้ด้วยและการรักษาภาวะซึมเศร้าควรรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อาการของภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น
     อาการที่พบจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้ คือ ไม่มีอารมณ์, สูญเสียความสนใจในการทำกิจวัตรประจำวัน, รู้สึกผิด, รู้สึกสิ้นหวัง, นอนไม่หลับ, ไม่มีสมาธิ, ไม่มีเรี่ยวแรง, เบื่ออาหาร, สูญเสียความภูมิใจในตัวเอง, รู้สึกปวดง่าย(ปวดหัว, ปวดท้อง) และรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย โดยอาการเหล่านี้จะต้องเป็นติดต่อกันอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป
ภาวะแทรกซ้อนของภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น   
     ภาวะซึมเศร้าที่รุนแรงนั้นจะทำให้ผู้ป่วยมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง และอยากฆ่าตัวตายได้

สาเหตุของภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น   
     ไม่มีสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง แต่มักเกิดจากเหตุการณ์หลายๆอย่างรวมกัน เหตุการณ์ในชีวิตที่อาจเป็นสิ่งกระตุ้นได้ เช่น ปัญหาครอบครัว, พ่อแม่แยกทางกัน, การทำทารุณกรรม, การถูกทอดทิ้ง, การเรียนตกต่ำ และปัญหาโรคเรื้อรัง เป็นต้น

การวินิจฉัยภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น   
     แพทย์จะซักประวัติอย่างละเอียด เนื่องจากเด็กอาจให้ข้อมูลไม่ได้ ผู้ปกครอง หรือคุณครูที่โรงเรียนจึงเป็นคนสำคัญที่จะให้ข้อมูลกับแพทย์ได้ ไม่มีการทดสอบทางห้องปฏิบัติการการใดๆที่ช่วยวินิจฉัยภาวะซึมเศร้าได้

การรักษาภาวะซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น  
    - การดูแลตนเอง : หากมีภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย อาจใช้การออกกำลังกายเพื่อบำบัดอาการได้
    - Cognitive behavioral therapy(CBT)/การบำบัดด้วยการรับรู้และพฤติกรรม : สามารถช่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และความคิด/ความรู้สึกในแง่ลบได้
    - การใช้ยา : แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านซึมเศร้าในกรณีที่เป็นภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง หรืออาการไม่ดีขึ้น โดยต้องกินยาต่อเนื่องแม้จะอาการดีขึ้นแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 6-9 เดือน
   - การรักษาภายในโรงพยาบาล : ใช้ในกรณีที่เด็กมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย


                                                       Image result for สติ๊กเกอร์ไลน์เศร้า

ที่มาของนิยายกริมม์

เทพนิยายกริมม์ เกิดขึ้นจากความสนใจอย่างลึกซึ้งในด้านภาษา ไวยกรณ์ 
และประวัติศาสตร์ของสองพี่น้อง เจคอบ กริมม์ (Jacob Grimm) และวิลเฮล์ม กริมม์ (Wilhelm Grimm) 
ชาวเยอรมัน โดย นิทานของพวกเขารวบรวมขึ้น
จากคำบอกเล่าที่ได้ฟังมา และได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1812 ด้วยชื่อ 
Children's and Household Tales (นิทานสำหรับเด็กและนิทาน
ประจำบ้าน) ซึ่งในภาษาอังกฤษมักเรียกกันว่า Grimm's Fairy Tales
(เทพนิยายกริมม์)
ในช่วงแรกได้รับเสียงวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ด้วยเรื่องราวที่มิได้สวยงามอ่อนหวาน ดังที่ได้อ่านกันในปัจจุบัน
แต่ต่อมาภายหลังมีการขัดเกลา เนื้อเรื่องให้น่าอ่านมากขึ้น 
และเมื่อได้รับการแปลเป็นภาษาอื่น ยังมีการตัดทอนเนื้อหาที่ล่อแหลม หรือรุนแรง บางส่วนออกไปด้วย
นิทานจากสองพี่น้องตระกูลกริมม์นั้น มีจินตนาการหลากหลาย ทั้งเวทมนตร์วิเศษ 
ภูตเอลฟ์ตัวเล็ก ยักษ์ตัวใหญ่ สัตว์ที่กลายเป็นคน และคนที่แปลงร่างเป็นสัตว์ได้ 
รวมถึงนิยมขึ้นต้นด้วยวลีว่า "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว" เรื่องที่รู้จักกันดี เช่น 
สไนว์ไวท์, ซินเดอเรลลา, ราพันเซล, เจ้าหญิงนิทรา และหนูน้อยหมวกแดง เป็นต้น
ตลอดชีวิตพวกเขาทำงานอยู่ใกล้ชิดกัน แม้การลงนามในสัญญาต่างๆ ก็ยังใช้ชื่อร่วม
ว่า "พี่น้องตระกูลกริมม์" โดยนอกจากผลงานนิทานที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังเป็น
ผู้ศึกษาภาษาเก่าแก่ ศาสตราจารย์ บรรณารักษ์ และผู้มีอิทธิพลในการเคลื่อนไหว 
เพื่อประชาธิปไตยในเยอรมนีอีกด้วย แม้ปัจจุบันสองพี่น้องตระกูลกริมม์
จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผลงานยังคงมีชีวิตอยู่ตราบจนทุกวันนี้


                                                    Image result for นิยายกริมม์